รวบรวมและวิเคราะห์เนื้อเรื่อง Path A waY ตอนที่ 1 ปูพื้นฐานแบบคร่าวๆ
SPOILER ALERT
ในบทความนี้มีประกอบไปด้วยภาพ, ตัวละคร, เหตุการณ์ในอดีตจนถึง Path 162
ในตอนนี้จะยังไม่เข้าสู่บทวิเคราะห์นะครับ เหตุผลคือเรื่องนี้มีจักรวาลที่ใหญ่และมีตัวละครเยอะมาก ถ้าไม่ใช่คนติดตามแบบเหนียวแน่นหรือนาน ๆ อ่านทีก็สามารถลืมหรือจำลำดับเหตุการณ์สับสนได้ ผมจึงอยากจะไล่เรียงข้อมูลให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน
โดยที่ข้อมูลในตอนนี้จะไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เพื่อไม่ให้ยาวจนเกินไปและหลุดจากวัตถุประสงค์ของตอนนี้
สำหรับคนที่คิดว่าอ่านเรื่องอย่างละเอียดและจำตัวละครได้ ผมแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ข้ามไปตอนถัดไปครับ
หัวข้อที่เราจะมาชำระความกันจะมีทั้งหมด 3 หัวข้อหลัก ได้แก่
1. A Brief History
- 5000 ปีก่อน เป็นช่วงยุคที่ดาว [ไพรมัส] รุ่งเรือง
- 3000 ปีก่อนโดยประมาณ กำเนิด [ผู้พิชิตคนที่ 1] เป็นชาวพื้นเมืองโบราณ ชาว [อาล์กอน]
- 2000 ปีก่อน [ไพรมัส] ล่มสลาย คาดว่าเป็นฝีมือของ [Mother], หลังจากนั้นไม่นาน [ลีฟาเรีย] ค้นพบ [The Path] เป็นกลุ่มแรก, จากนั้นก็มีการก่อตั้ง [Pathership] และไม่นานก็ได้พบกับ [Void] ตัวแรก
- 1500 ปีก่อนโดยประมาณ จักรวรรดิ [Z-27] ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
- 1000 ปีก่อน¹ กำเนิดผู้พิชิตคนที่ 2 เป็นประมุขชาว [Phact] เธอเป็นหญิงสาวที่ต่อสู้กับ [Colossal Clust] เพื่อปกป้องดาวของตัวเอง
- 20 ปีก่อน [Pathership] เผชิญหน้ากับ [Void Rank Advance] เป็นครั้งแรก โดยถูกเรียกว่า [Arachnic Epicrust], ผลลัพธ์จากการต่อสู้คือ [Pathership] เป็นฝ่ายชนะโดยมีผู้เสียชีวิตกว่าหมื่นล้านคนและมีดวงดาวล่มสลายกว่าสองหมื่นดวง, กำเนิด [ผู้พิชิตคนที่ 3] เบรนเนท ลจ์อส ลิฟดาเกีย (ไม่ได้พิมพ์ผิด)
ผู้ลาสช็อตบอส
- 7 ปีก่อน [Mother] เข้าจู่โจม [เซเลสเทีย] โดยไม่ทราบสาเหตุ, เกิดอุบัติเหตุทำให้พ่อและแม่ของไอรีสเสียชีวิต
2. Civilizations
Earth
- เข้าร่วมกับ [Pathership] แต่ไม่ได้มีบทบาทมากนัก
- [Full digital assist] คือเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อตัวเลขกับความเป็นจริง สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมให้มนุษย์อยู่อาศัยได้ รวมถึงเปลี่ยนสิ่งของให้อยู่ในรูปแบบของข้อมูลเพื่อการเก็บรักษา
Celestia
- ว่ากันว่าชาวเซเลสเทียเสน่ห์แรงมาก
- [Imaginary Circuit] คือเทคโนโลยีของเซเลสเทีย จำลองกฎเกณฑ์ในจักรวาล สามารถจำลองได้เกือบทุกสิ่งในจักรวาล ตามที่ปรากฎมาในเนื้อเรื่อง สามารถจำลองได้แม้กระทั่งเทคโนโลยี [Rejection] ของ [Phact]
- ดาวเซเลสเทียล่มสลายจาก [Mother] เมื่อ 7 ปีก่อน ผู้เหลือรอดที่ปรากฎในเนื้อเรื่องปัจจุบันมี 2 คน คือ ริเอสเทลและเฟนิก
Lefaria
- เป็นคนกลุ่มแรกที่ค้นพบ [The Path]
- ชาวลีฟาเรียถือกำเนิดจากพลังจินตภาพเข้มข้นและผูกยึดติดกันด้วย [นาม]
- [Channel] คือเทคโนโลยีด้านการทหารของลีฟาเรีย โดยการเปลี่ยน [Myst] เป็นธาตุต่าง ๆ ตามแต่ที่ชาวลีฟาเรียถนัด ธาตุที่ว่าได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง มืด
Phact
- [Rejection] คือเทคโนโลยีที่ปฏิเสธกฎเกณฑ์ดั้งเดิมและเขียนขึ้นมาใหม่ โดยที่ชาว [Phact] ระดับหัวกะทิหนึ่งคนจะสามารถใช้ [Rejection] ได้เพียงอย่างเดียว
- [Divas Rejection] คืออำนาจสูงสุดใน [Phact] โดยการปฏิเสธทุกกฎเกณฑ์ภายในรัศมี 500 ล้านกิโลเมตรรอบดาวและเขียนทับขึ้นมาใหม่ด้วยฝีมือของผู้ถือครอง [Divas Rejection]
- ทุก ๆ 30 ปี [Divas Rejection] จะกลับไปอยู่ที่ [Coronation Tower] และจะมีช่วงเวลาก่อนหอคอยจะเปิดถึง 6 เดือน ช่วงเวลาดังกล่าว [Phact] จะไร้ผู้นำและจะเกิดการต่อสู้ทุกหนทุกแห่ง
- [Phact] ประกอบด้วย [Solidar] ทั้ง 5 ได้แก่ [หาง, ปีก, เขี้ยว, กรงเล็บ, เขา] ซึ่งแต่ละ [Solidar] จะมีจุดเด่นทางกายภาพแตกต่างกันไป
Z-27
- เผ่าจักรกลซึ่งมีอายุขัยยาวนาน
- ประกอบไปด้วย [Family] ทั้ง 27 ซึ่งแต่ละ [Family] ต่างมีดวงดาวในครอบครองของตัวเอง
- ยังไม่ปรากฎเทคโนโลยีที่เด่นชัด ยกเว้น [Bit] อุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่มีจำนวนมากมายมหาศาล ความสามารถหลากหลาย เช่น ประสานงานเพื่อยิงพลังงานไปทำลายเป้าหมาย, รบกวน [The Path] เพื่อไม่ให้ใช้เดินทางได้
Esla
- พื้นฐานเทคโนโลยีอยู่บนของเหลวที่ถูกเรียกว่า [Ether]
- เทคโนโลยีด้านการรักษาสูงที่สุดในจักรวาล แต่ไม่มีเทคโนโลยีด้านการต่อสู้เลย
- นับถือ [เทพเอสเรีย] โดยยึดถือคำสอน “ชีวิตคือสิ่งที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้”
Mechina
- โค้ดที่มีชีวิต
- เมื่อ 15 ปีก่อนดาว [เมซกีน่า] ถูก [เมเฮม] แฮคและเปลี่ยนเป็นระบบประมวลผลของตัวเอง โดยที่ไม่มีใครสามารถต่อกรได้เลย ต่อมา [เมเฮม] หายตัวไปแต่ดาว [เมซกีน่า] ก็ยังต้องฟื้นฟูตัวเองอยู่จนถึงปัจจุบัน
Abor
- เผ่าพันธุ์ที่หน้าตาคล้ายต้นไม้
- อาศัยอยู่ที่ [Multicluster Rolvess] สถานที่ซึ่งเคยเกิดสงครามกับ [Void rank advance]
3. Character Name List
นอกจากนี้ยังมีตัวละครอีกมากมาย แต่ผมขอเลือกมาเฉพาะตัวละครที่โผล่ออกมาบ่อยหรือน่าจะมีอิทธิพลต่อเรื่อง
Appendix
¹ ในเนื้อเรื่องไม่ได้มีการกล่าวถึงตำแหน่งเวลาที่ [ผู้พิชิตคนที่ 2] เกิดขึ้นโดยตรง แต่เราสามารถคาดเดาได้จากคำพูดของครีส-เคเดียส (เลือดแห่ง [Null-gazer])
จากคำพูดดังกล่าว เราอาจสันนิษฐานว่า ผู้หญิงที่ครีส-เคเดียสได้ให้สัญญาเอาไว้เมื่อ 1000 ปีก่อน น่าจะเป็น [ผู้พิชิตคนที่ 2]